นกกระจอกเทศกินอะไรเป็นอาหาร
นกกระจอกเทศกินอะไรเป็นอาหาร สำหรับอาหารของ นกกระจอกเทศ นั้น ก็จะเป็นพวกพืช หญ้า ผักต่างๆ และจำพวกสัตว์ตัวเล็กๆ เช่น จิ้งจก ลูกกบและแมลงต่างๆ โดยนกกระจอกเทศเป็น สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม จำพวกกินพืช ที่มีกระเพาะอยู่ 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นกระเพาะบด และกระเพาะพัก จึงทำให้อาหาร การกินของนกกระจอกเทศนั้น เป็นพวกพืชผัก สัตว์ตัวเล็กๆ นั่นเอง โดย นกกระจอกเทศ นั้นเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างดุ เมื่อถึงหน้าผสมพันธุ์ และออกไข่ ดังนั้นแล้ว จึงต้องมีการจัดแบ่งโรงเรือน ให้เหมาะสม กับอายุของมัน ซึ่งจะต้องคำนวณ ให้ตรงตามความต้องการของ นกกระจอกเทศ อายุต่าง ๆ นอกจากนั้นแล้ว ด้วยความที่ นกกระจอกเทศ เป็นสัตว์ปีกตัวใหญ่ จึงทำให้มีสองกระเพาะ และกินอาหารได้จำพวกพืชผัก แมลงต่างๆ นั่นเอง
นกกระจอกเทศ ชื่อภาษาอังกฤษ ว่า ostrich และ นกกระจอกเทศ ชื่อทางวิทยาศาสตร์ ว่า Struthio camelus เป็นสัตว์ปีก ที่มีถิ่นอาศัย ในแถวทวีปแอฟริกา และนิยมเลี้ยงเป็นฟาร์ม ในต่างประเทศ เป็นส่วนใหญ่ จึงทำให้ไม่ค่อยเห็น การเลี้ยงฟาร์ม นกกระจอกเทศ ในไทยเท่าไหร่ ซึ่งจะพบเห็น ได้ก็ตามสวนสัตว์ เท่านั้น ซึ่ง นกกระจอกเทศ ถือเป็นสัตว์ที่มีร่างกาย ที่สามารถใช้ประโยชน์ ได้ทุกสัดส่วน ไม่ว่าจะเป็นหนัง ที่มีคุณภาพมากกว่า เนื้อที่มีไขมัน และคอเรสเตอรอล ที่ต่ำกว่าเนื้อวัว แต่มีรสชาติที่คล้ายกัน ส่วนการดูแลนั้น ก็จะมีวิธีการดูแล ที่คล้ายกับสัตว์เศรษฐกิจทั่วไป
การสร้างโรงเรือนเลี้ยงนกกระจอกเทศ ที่ถูกต้อง
โดยการเลี้ยงดู นกกระจอกเทศ ตามฟาร์มนั้น ก็จะมีวิธีการเลี้ยงที่ดู เหมือนกับการเลี้ยงสัตว์ เศรษฐกิจทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นโรงเรือน การให้อาหารและการจัดการ โดยหัวข้อต่างๆ เหล่านี้เราได้ทำการรวบรวมข้อมูล มาให้ทุกคนได้ทราบกัน ดังนี้
1.โรงเรือน
ในส่วนของโรงเรือนนั้น จะต้องแบ่งออกเป็น 2 ส่วน เนื่องจาก นกกระจอกเทศ เป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในป่า ดังนั้นแล้ว อาหารในการดำรงชีพ ของพวกมัน จึงเป็นพวกแมลงและหญ้า นั่นเอง โดยโรงเรือน จะแบ่งออกเป็น ดังนี้
- ส่วนโรงเรือน จะต้องมีการกั้นเป็นห้อง และสามารถเปิด – ปิด ได้ เพื่อให้มีพื้นที่ ในการดูแลรักษานกกระจอกเทศ อีกทั้ง ยังใช้ไว้เป็นที่ขัง ในการเข้าไปเก็บไข่อีกด้วย เพราะนกกระจอกเทศ จะค่อนข้างดุ
- ส่วนพื้นที่โล่ง ที่เปิดกว้างเพื่อให้นกกระจอกเทศได้มีพื้นที่ในการวิ่งเล่น นั่นเอง
2.พื้นที่ในการสร้างโรงเรือน
สำหรับในส่วนพื้นที่ จะไม่สามารถกำหนด ค่าที่ตายตัวได้ เนื่องจากขึ้นอยู่กับ พื้นที่ใช้สอย และความอุดมสมบูรณ์ของพืชหญ้า อีกทั้ง ยังขึ้นอยู่กับอายุ ที่สามารถกำหนดได้คราวๆ ดังนี้
- 1 – 12 วัน ใช้พื้นที่ในโรงเรือน ประมาณ 1.2 ตร.ม.
- 22 – 90 วัน ใช้พื้นที่ในโรงเรือน ประมาณ 1.2-2.4 ตร.ม. และพื้นที่สำหรับวิ่ง 10 ตร.ม.
- 4 – 14 เดือน ใช้พื้นที่ในโรงเรือน ประมาณ 1.5 ตร.ม. และพื้นที่สำหรับวิ่ง 250 ตร.ม.
- 2 ปีขึ้นไป ใช้พื้นที่ในโรงเรือน ประมาณ 8 ตร.ม. และพื้นที่สำหรับวิ่ง 500 ตร.ม.
3.รั้ว
โดยรั้วควรจะมีความสูง อยู่ที่ประมาณ 1.5-2.00 เมตร ซึ่งจะใช้รั้ว ที่เป็นตาข่ายถัด หรือล้วนกั้นที่เป็นช่องๆ ไม่ควรใช้ลวด ที่มีหนาม เพราะจะทำให้ นกกระจอกเทศ ได้รับอันตราบบาดเจ็บได้