นกกระจอกเทศสีอะไร
โดย นกกระจอกเทศ ชื่อภาษาอังกฤษ ว่า ostrich และ นกกระจอกเทศ ชื่อทางวิทยาศาสตร์ ว่า Struthio camelus ซึ่ง นกกระจอกเทศ จะมีสีที่แตกต่างไป ตามแต่ละสายพันธุ์ ซึ่งจริงๆ แล้ว นกกระจอกเทศ จะมีอยู่ทั้งหมด 4 สายพันธุ์ แต่ได้มีการปรับเปลี่ยนสายพันธุ์ จึงทำให้เหลืออยู่ 3 สายพันธุ์ ที่ผู้คนนิยมเลี้ยง เพื่อทำธุรกิจและบริโภคกัน โดยทั้งสามสายพันธุ์ จะมีดังนี้
- นกกระจอกเทศพันธุ์คอดำ (African black domestic หรือ Black Neck) โดยจะมีสีผิวสีเทาดำ ส่วนมือ และปากจะมีสีดำ
- นกกระจอกเทศพันธุ์คอแดง (Red Neck) เป็นพันธุ์ที่มีสีชมพูเข้ม ทั้งเพศผู้และเพศเมีย โดยเพศผู้นั้น จะมีผิวสีชมพูเข้ม และมีหนัง ต้นคอและขาเป็นสีขาวครีม บริเวณหนัง ต้นขาและคอ เมื่อเข้าสู่ฤดูผสมพันธุ์ จะมีสีแดงเข้มที่ บริเวณขาและคอ บริเวณขนปลายหาง และปลายปีก จะมีสีขาวนอกนั้น จะเป็นสีดำ ส่วนตัวเมียจะมีผิวที่เป็นสีน้ำตาลเทา
- นกกระจอกเทศพันธุ์คอน้ำเงิน (Blue Neck)เป็นพันธุ์ที่มีสีฟ้าอมเทา ทั้งในเพศผู้และเพศเมีย ซึ่งตัวผู้เมื่อเข้าใกล้ผสมพันธุ์ จะมีหน้าแข้งเป็นสีแดง
กายวิภาคของ นกกระจอกเทศที่น่ารู้
หลังจากที่เราได้ทำการศึกษา เกี่ยวกับสายพันธุ์ไปแล้ว ต่อไปเราก็จะทำการศึกษา เกี่ยวกับกายวิภาคของนกกระจอกเทศ ซึ่งเป็นสัตว์ปีก ที่ไม่มีกระดูกทรวงอก แต่จะมีแผ่นอกขนาดใหญ่ ของมันปิดบริเวณทรวงอกเอาไว้เพื่อกันหัวใจกับตับ นั่นเอง ซึ่งเหตุผลนี้ จึงทำให้ นกกระจอกเทศ ไม่สามารถที่จะขึ้นบินได้ อีกทั้ง ยังมีทางเดินอาหารที่ยาวมาก เมื่อโตเต็มวัยจนาด 26 ฟุต เลยทีเดียว
ระบบทางเดินหายใจของเหล่านกกระจอกเทศ
สำหรับทางเดินหายใจของ นกกระจอกเทศ นั้นก็จะเหมือนกับ พวกนกปกติทั่วไป ที่ประกอบไปด้วยปอด ระบบถุงลม ที่อยู่ในทรวงอกขยายเข้าไป จนถึงโพรงกระดูก นอกจากนนั้นแล้ว กระดูกของมันยังไม่ได้ เป็นโพรงทั้งหมดอีกด้วย และยังสามารถให้ระบบถุงลม เพื่อขับความร้อน ภายในร่างกายของมันได้อีกด้วย
ระบบย่อยอาหารของนกกระจอกเทศ
สำหรับระบบย่อยอาหารนั้น นกกระจอกเทศ จะมีอยู่ 2 กระเพาะคือ กระเพาะบก และกระเพาะพัก โดยนกกระจอกเทศ เป็นสัตว์กินพืชที่นิยม กินพวกแมลงตัวเล็กๆ หญ้า พืช ผัก เป็นต้น และอีกเรื่องที่น่าสนใจของนกกระจอกเทศ ก็คือ การที่พวกมันจะหินเล็กๆ เพื่อให้ช่วยในการย่อยอาหารของมัน ที่บริเวณกระเพาะบดอีกด้วย
ระบบสืบพันธุ์ของ นกกระจอกเทศ
สำหรับระบบสืบพันธุ์ ในนกกระจอกเทศเพศผู้นั้น จะมีอัณฑะ 2 อันอยู่ใน ventral cloaca แต่จะต่างกันกับ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ทั่วไป ส่วนนกกระจอกเทศเพศเมียนั้น จะมีรั่งไข่อยู่ 1 อันและปุ่มคลิตอริสที่ ventral cloaca
ดังนั้นแล้ว นกกระจอกเทศ จึงมีสีที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับแต่ละสายพันธุ์ของมัน แต่ทั้งนี้กายวิภาค และระบบต่างๆ ภายใยร่างกายของมัน ก็ยังมีการทำงาน ที่เหมือนกันอยู่นั่นเอง