ลัมปี สกิน โรคอุบัติใหม่ ในโคและกระบือ
ในช่วงสองสามเดือนมานี้ข่าวที่ร้ายแรงที่สุดในวงการเกษตรกรกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์ประเภท โคกระบือ คงหนีไม่พ้น การเริ่มระบาดของ โรคแลมปี สกิน ในประเทศไทย หลังจากก่อนหน้านี้แพร่ระบาดในประเทศเพื่อนบ้านมาแล้วไม่ว่าจะเป็นเวียดนาม เมียนมาร์ เนปาล ไต้หวัน ตลอดจนกระทั่งจีนเองก็เคยต้องรับมือกับโรคนี้มาแล้ว
ปัจจุบันพื้นที่แพร่ระบาดของโรคนี้ในประเทศไทยลุกลามไปแล้วถึง 20 จังหวัดโรคลัมปี สกิน นี้เกิดจากเชื้อไวรัสตัวหนึ่งที่มีชื่อเรียกว่า Lumpy skin disease virus จัดเป็นกลุ่มโรคเดียวกับฝีดาษที่เกิดในหมู แต่โรคนี้เป็นโรคระบาดที่จะเกิดในวัวและความเท่านั้น ทั้งนี้มีพาหะนำโรคสามารถติดต่อไปสู่วัวตัวอื่นๆได้ โดยแมลงกินเลือด อาทิเหลือบ เห็บ และยุงเป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถติดต่อผ่านการสัมผัสหรืออยู่ใกล้ในระยะแพร่กระจายของเชื้อ การผสมพันธุ์ หรือหากวัวมีท้องก็สามารถติดจากแม่ไปสู่ลูกได้เช่นกัน อย่างไรก็ดี ไม่พบว่าโรคลัมปี สกินนี้จะสามารถแพร่เชื้อจากวัว มาสู่คนได้
ปัจจุบันมีเกษตรกรมากมายได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคนี้ โดยสัตว์ที่ติดเชื้อจะมีอาการเริ่มมีไข้ และตุ่มขนาดใหญ่ขึ้นตามร่างกาย เช่น หัว คอ ท้อง ถุงอัณฑะ เป็นต้นโดยจะเริ่มมีอาการอักเสบขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะแตกและตกสะเก็ด เป็นหลุมเนื้อตายทั่วรางกายของวัว ทั้งนี้จะส่งผล ให้วัวป่วยในด้านอื่นๆด้วย เช่นน้ำลายไหล ไข้ขึ้นสูง และหายใจลำบาก อย่างไรก็ตามถึงแม้จะมีอัตราการตายจากโรคนี้ไม่มาก แต่วัวที่ติดเชื้อจากโรคนี้ ก็ยังได้รับผลกระทบทางด้านผลผลิตอยู่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลานี้
ปัจจุบันมีสถิติการป่วยของสัตว์ในไทย มากกว่า 7000 ตัว และเสียชีวิตไม่แล้วไม่น้อยกว่า 50 ตัว ซึ่งถือว่าเป็นการระบาดครั้งใหญ่ในประเทศเลยที่เดียว
ในส่วนของโรคและการรักษาปัจจุบันนี้ไม่มียารักษาโรคนี้โดยตรงได้ทำได้เพียงรักษาตามอาการเท่านั้น หากมีไข้ก็ให้ยาลดไข้ หากแผลอักเสบก็ให้ยาแก้อักเสบ เมื่อแผลแตกตกสะเก็ดก็ใส่ยารักษาแผลไปตามอาการเท่านั้น อย่างไรก็ดีปัจจุบันทางกรมปศุสัตว์ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เริ่มติดต่อนำเข้าวัคซีนป้องกันโรคนี้ จากประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยจะได้รับครั้งแรกจำนวน 60,000 โดส และจะหาเพิ่มอีกโดยตั้งเป้าไว้ที่ 300,000 โดส เพื่อให้เพียงพอกับจำนวนสัตว์ ที่ได้รับผลกระทบทั่วประเทศ
ทั้งนี้เกษตรที่ยังไม่ได้รับผลกระทบควรป้องกันเท่าที่ทำได้ไว้ก่อน เช่นกำจัดแมลงที่อาจจะเป็นพาหะนำโรคทุกชนิด อย่าให้เข้ามาในโรงเรือนได้ ทั้งการใช้สารฉีดพ่น ตลอดจนมีผ้าคลุมโรงเรือนเอาไว้กันแมลงเล็ดลอดเข้ามา อีกทั้งยังต้องคอยดูแลอากาศโรงเรือนให้โล่งโปร่ง และรักษาความสะอาดอยู่เสมอ ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งเหล่านี้คือวิธีที่จะสามารถทำได้ในเวลานี้ก่อนวัคซีนจะมาถึง แต่อย่างไรก็ดีหากพบสัตว์ที่มีอาการเข้าค่ายน่าสงสัยให้รีบแจ้ง ปศุสัตว์พื้นที่ทันทีเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดให้ได้ผลสูงสุด