วิธีการเลี้ยงนกแก้ว
เชื่อว่าบรรดาเหล่าคนรักนกทั้งหลาย น่าจะมีความรู้จักมักคุ้นกับ “นกแก้ว” เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นนกอีกสายพันธุ์ที่มีความสวยงามมากทีเดียว จนกลายเป็นที่ถูกอกถูกใจของเหล่าคนเลี้ยงสัตว์ปีกมากมาย โดยเฉพาะในประเทศไทยเองก็มีความนิยมเลี้ยงสัตว์ชนิดดังกล่าวมากเช่นเดียวกัน บางคนถึงขั้นที่ว่าสามารถนำนกแก้วของตัวเองไปประกวด จนคว้าถ้วยรางวัลและเงินรางวัลหลักหมื่นหลักแสนมาครอบครองได้อีกด้วย สำหรับภายในประเทศไทยพบนกแก้วทั้งหมด 7 ชนิดด้วยกัน ยกตัวอย่างเช่น นกแขกเต้า นกแก้วโม่ง และนกแก้วหัวแพร เป็นต้น ส่วนวิธีการเลี้ยงนกแก้วนั้น มีหลายสิ่งหลายอย่างที่จำเป็นต้องเรียนรู้ ประกอบไปด้วยดังต่อไปนี้
1. แนะนำว่าควรเลี้ยงนกแก้วโดยให้เกาะอยู่บนคอน ซึ่งในส่วนของขาตั้งและคอนที่กล่าวมานี้ จะส่งผลให้นกแก้วมีความรู้สึกเป็นอิสระ แถมยังออกกำลังกายได้อย่างสะดวกอีกด้วย ซึ่งคอนควรทำมาจากวัสดุเกรดคุณภาพ มีความแข็งแรงทนทาน แต่หากเป็นคอนที่ผลิตมาจากไม้ ต้องหุ้มปลายด้วยโลหะเท่านั้น ไม่เช่นนั้นนกแก้วจะจิกแทะเล่นจนเกิดความชำรุดเสียหาย
2. หากนำนกแก้วมาเลี้ยงสักระยะนึงแล้ว แต่ยังรู้สึกเหมือนกับว่านกแก้วยังไม่เชื่องพอ ควรใช้กำไลสวมข้อเท้าติดกับโซ่ล็อคเอาไว้ก่อน เพราะมีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงว่านกแก้วที่ยังไม่เชื่อง อาจจะบินหนีไปได้ในที่สุด ดังนั้นเจ้าของจึงต้องหาวิธีการป้องกันน่าจะดีที่สุด ซึ่งอุปกรณ์อย่างกำไลสวมข้อเท้าน่าจะตอบโจทย์อย่างแน่นอน
3. เลี้ยงนกแก้วด้วยกรงภายใน หากว่านกแก้วมีขนาดตัวค่อนข้างเล็ก แนะนำว่าควรใช้กรงที่มีขนาดมากกว่า 2×3 ฟุต โดยให้คอยสังเกตว่าขนาดของกรงและขนาดของนกมีความเหมาะสมกันหรือไม่ ต้องปล่อยให้นกแก้วมีพื้นที่ภายในกรงอย่างพอเหมาะพอควร พอที่จะกางปีกออกโดยไม่ติดกับกรงหรือคอน เท่านี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว
4. เลี้ยงนกแก้วด้วยกรงภายนอก วิธีการเลี้ยงสัตว์ในลักษณะนี้ จะส่งผลให้สุขภาพของนกแก้วดีตามไปด้วย เนื่องจากได้อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด ท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์ แถมนกแก้วยังได้ออกกำลังกายอย่างเป็นประจำอีกด้วย แต่ต้องคอยระวังอย่าให้แสงแดดส่องมากจนเกินไป ให้อยู่ในสถานที่อุณหภูมิพอเหมาะจะดีที่สุด