สัตว์ที่กินซากพืชและซากสัตว์
หากพูดถึงสัตว์กินซากหลายคนอาจจะนึกถึงแร้งเป็นอย่างแรก เพราะหลาย ๆ คนเคยเห็นแร้งกินซากสัตว์ต่าง ๆ ที่ตายไปแล้ว รวมถึงซากสัตว์ที่เน่าในบางครั้ง ซึ่งสัตว์กินซากมีสัตว์ประเภทนี้ทั้งหมด 4 ชนิด จะมีเหยี่ยว แร้ง ไส้เดือน รวมถึงนกอินทรีย์ ซึ่งแร้งจะเป็นสัตว์กินซากที่ตายแล้วเท่านั้น หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าทำไมแร้งถึงเป็นสัตว์ที่กินแต่ซากสัตว์ แต่ทำไมถึงไม่สามารถออกล่าอาหารเหมือนกับเหยี่ยวหรือนกอินทรีย์ได้
เหตุผลที่แร้งทำเหมือนเหยี่ยวกับนกอินทรีย์ไม่ได้ เพราะว่า แร้งไม่มีกรงเล็บที่แข็งแรงได้เหมือนเหยี่ยวกับนกอินทรีย์แร้งจึงสามารถกินได้แค่ซากสัตว์ที่ตายแล้ว แร้งจะมีลักษณะอุ้มเท้าที่แบนและกรงเล็บเล็กและสั้น แร้งเป็นสัตว์ที่แทบจะไม่มีขนบริเวณหัวและคอ การที่แร้งมีลักษณะแบบนี้ อาจจะเป็นเพราะว่าแร้งกินซากสัตว์จึงทำให้ไม่มีขนเพื่อเป็นการไม่เกิดการสะสมของเชื้อโรค แร้งมีกระเพาะพิเศษที่มีขนาดที่ใหญ่ เพื่อเก็บอาหาร มีลำไส้และกระเพราะอาหารที่เป็นกรดสามารถฆ่าแบคทีเรียและจุลชีพอื่น ๆ ได้ แร้งจึงสามารถกินซากสัตว์ที่เน่าเปื่อยได้โดยที่ไม่มีความอันตราย
เหยี่ยวและนกอินทรีย์ถือว่าจัดอยู่ในโหมดเดียวกับแร้งแต่ต่างกันตรงที่เหยี่ยวและนกอินทรีย์สามารถล่าเหยื่อได้เหยี่ยวและนกอินทรีย์จะมีลักษณะที่คล้ายกันซึ่งเหยี่ยวอาจจะมีขนาดตัวที่เล็กกว่าแต่เรื่องความแข็งแรงในการล่าเหยื่อต้องบอกเลยว่าไม่มีใครยอมใครเลยทีเดียวทั้งสองจะมีจะงอยปากที่งองุ้มมีกรงเล็บที่แหลมและแข็งแรงรวมถึงความเร็วในการบินและล่าเหยื่อได้อย่างแม่นยำหากว่าสัตว์ชนิดไหนก็ตามที่เหยี่ยวและนกอินทรีย์ได้หมายตาเอาไว้แน่นอนว่าไม่เคยพลาดอย่างแน่นอน
เหยื่อที่มักจะเป็นเหยื่อของสัตว์สองชนิดนี้ก็คือสัตว์ที่มีขนาดที่เล็กกว่าเช่นสัตว์ฟันแทะสัตว์น้ำหรือสัตว์เลื้อยคลานนอกจากนี้ยังสามารถล่าสัตว์ที่มีขนาดที่ใหญ่กว่าตัวได้เช่นกวางในการล่าเหยื่อของเหยี่ยวและนกอินทรีย์แต่ละครั้งจะมีเล่ห์เหลื่อมด้วยการบินไล่ล่าเพื่อให้เหยื่อหมดแรงและจึงบินลงไปโฉบเหยื่อขึ้นมาซึ่งด้วยกรงเล็บที่แหลมคมแน่นอนว่าสร้างบาดแผลให้กับสัตว์เหล่านั้นรวมทั้งปากที่แหลมและคมมากจึงเป็นไปได้ยากหากว่าได้หมายตาเหยื่อเอาไว้แล้วโอกาสรอดของเหยื่อเหลือน้อยมากๆ
สัตว์ที่กินซากพืชนั่นก็คือไส้เดือนไส้เดือนเป็นสัตว์ที่กินซากพืชต่างๆที่อยู่ตามพื้นดินในการหาอาหารของไส้เดือนจะเป็นการมุดลงเข้าไปในดินเพื่อกินเศษซากของพืชในการหาอาหารของไส้เดือนจึงไม่ต่างอะไรกับการพรวนดินให้ต้นไม้ซึ่งสร้างประโยชน์ให้กับมนุษย์เพราะการที่ไส้เดือนหาอาหารกินก็ทำให้พืชที่อยู่ในบริเวณนั้นสามารถเจริญเติบโตได้ดีอีกด้วย