
เสือดาวหิมะ
อีกหนึ่งสัตว์หายากที่มีความน่ารัก น่าเอ็นดู แต่ก็ยังซ่อนความน่ากลัวและอันตรายไว้อย่างมาก หากมีการเข้าใกล้ที่ไม่ถูกวิธี ที่มักจะพบเจอได้ตามภูเขาสูงแถวเอเชีย เช่น อินเดีย ปากีสถาน จีน รัสเซีย มองโกเลีย และอาฟกานิสถาน และนั่นก็คือ “เสือดาวหิมะ” ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ของเสือดาวแต่จะอยู่ในพื้นที่ที่มีหิมะปกคลุมในช่วงอากาศหนาว ซึ่งลักษณะรูปร่างของสัตว์ประเภทนี้จะมีขนที่ยาวหนาแน่นเป็นลายดอก ออกสีเหลืองอมเทาเขียว ซึ่งเสือดาวหิมะจะมีความแตกต่างจากเสือดาวทั่วไป เพราะลำท้องของมันจะไม่มีลวดลายหรือเส้นขวางเหมือนเสือดาวทั่วๆไป
โดยจะมีลำตัวที่ยาว ประมาณ 90 – 135 เซนติเมตร และมีหางที่ยาวถึง 90 เซนติเมตร มีขาที่ค่อนข้างจะสั้น แต่มีกล้ามเนื้อที่หน้าอกกว้างและค่อนข้างจะแข็งแรงอย่างมาก ที่จะกระโจนใส่ผู้ล่าทันที ส่วนรูปร่างหน้าตาที่เห็นได้ชัดเจนของเสือดาวหิมะก็คือ จะมีม่านตาออกสีเหลืองอมเทาเขียว มีใบหูขนาดเล็ก ปากสั้น หน้าผากสูง อีกทั้งยังมีขนาดอุ้งตีนที่ใหญ่ที่ใช้ในการปีนป่ายได้อย่างรวดเร็ว และความแตกต่างของเสือดาวหิมะก็คือ จะไม่สามารถที่จะส่งเสียงร้องคำรามให้น่ากลัวเหมือนเสือตระกูลอื่นๆได้ แต่จะเป็นการใช้เสียงอืมครืมในลำคลอในการขู่เหยื่อแทน หากมองดูดีๆ ก็จะรู้สึกได้ว่ามีความคล้ายแมวธรรมดาทั่วไป รวมไปถึงลักษณะและท่าทางการยืนอีกด้วยเช่นกัน
“เสือดาวหิมะ” มักจะมีนิสัยที่เขินอายและชอบความสันโดษอย่างมากซึ่งเขาจะมีความพิเศษในตัวคือการปีนป่ายที่เก่งและกระโดไกลได้ถึง 15 เมตร ซึ่งมักจะชอบกระโดดขึ้นไปนอนพักผ่อนตามรังของแร้งดำ ดูจากภายนอกก็เหมือนว่าจะน่ารักไม่มีอันตรายแต่อย่างใด แต่หากเมื่อถึงเวลายามที่เจ้าเสือดาวหิมะเริ่มหิว ก็จะออกล่าเหยื่อทันที
ซึ่งมักจะชอบออกไปหาอาหารกินในช่วงเวลาเช้าตรู่หรือไม่ก็ตอนเย็นเท่านั้น และสัตว์ที่เจ้าเสือดาวหิมะรู้สึกโปรดปรานมากที่สุด ก็คงจะไม่พ้น มาร์คอร์ บลูชีป กระต่ายป่า กวางชะมด หมูป่า ไอเบกซ์ และนกอีกหลากหลายชนิด ซึ่งนิสัยในการล่าเหยี่ยของเจ้าเสือดาวหิมะ ภายในระยะเวลา 1 ปี จะสามารถล่าเหยื่อได้เพียง 20 – 30 ตัวเท่านั้น ที่สำคัญอาหารการกินของเจ้าเสือดาวหิมะ ก็จะมีการเปลี่ยนไปตามช่วงฤดูอีกด้วยเช่นกัน
แต่ถึงอย่างไรเจ้า “เสือดาวหิมะ” ก็ยังมีความน่าสงสารอย่างมากเพราะต้องถูกภัยคุกคามจากการกระทำของมนุษย์บางกลุ่มทั้งทางตรงและทางอ้อมทำให้กลายเป็นสัตว์ที่เริ่มจะสูญหายไปหรือบางตัวก็อาจจะโชคร้ายถูกวางยาไปเพราะการถูกคุกคามแบบนี้ทำให้“เสือดาวหิมะ”ต้องอาศัยไปอยู่ต่างถิ่นบ้านถิ่นเมืองและทำให้เสือดาวหิมะรู้สึกโกรธเคืองเข้าไปเพิ่มขึ้นอีกจึงเข้าไปทำลายสัตว์เลี้ยงของชาวบ้านในบริเวณนั้นๆจนเริ่มเกิดเป็นห่วงโซ่ของการฆ่าขึ้นมาแทนโดยส่วนใหญ่ผู้คนมักจะนิยมนำหนังเสือดาวหิมะมาทำเป็นแฟชั่นเสื้อคลุมต่างๆและยังเอากระดูกของเสือดาวหิมะมาทำยาจีนด้วยอีกเช่นกัน